“มูลนิธิรามาธิบดีฯ รวมพลัง Super App เพื่อนักสู้ชุดขาว” ผนึกกำลัง 4 ซูเปอร์แอปชั้นนำ ร่วมสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ต่อสู้สถานการณ์โควิด-19

มูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมด้วย แกร็บ ประเทศไทย (Grab Thailand), เจดี เซ็นทรัล (JD Central), ลาซาด้า (Lazada), และ ช้อปปี้ (Shopee) เปิดโครงการ “มูลนิธิรามาธิบดีฯ รวมพลัง Super App เพื่อนักสู้ชุดขาว”

ครั้งแรก! ของการประกาศความร่วมมือแบบบูรณาการระหว่าง 4 ซูเปอร์แอป (Super App) ชั้นนำของประเทศไทย ร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงบน “วัฒนธรรมแห่งการให้” เปิดช่องทางบริจาคบนแอปพลิเคชันเพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการต่อสู้และยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

เพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้บุคคลากรทางการแพทย์ต้องการการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนมากขึ้นอย่างทวีคูณ แม้ในตอนนี้สถานการณ์เรื่องทรัพยากรดีขึ้น แต่ก็ยากที่จะคาดเดาว่าสถานการณ์ในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร มูลนิธิรามาธิบดีฯ จึงทำงานอย่างใกล้ชิดกับโรงพยาบาล เพื่อสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ให้สามารถรับมือกับความจำเปนเร่งด่วนและเหตุฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที

มูลนิธิรามาธิบดีฯ ในฐานะองค์กรการกุศล มีพันธกิจในการเป็นศูนย์กลางการระดมทุน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ตระหนักถึงความสำคัญของการ “ให้” ของทุกภาคส่วนในสังคม ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงบน “วัฒนธรรมแห่งการให้” ในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤต การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่บุคคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยต่างก็ต้องการการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนมากขึ้นทวีคูณ โครงการ “มูลนิธิรามาธิบดีฯ รวมพลัง Super App เพื่อนักสู้ชุดขาว” จึงถือกำเนิดขึ้น

นางสาวพรรณสิรี คุณากรไพบูลย์ศิริ ผู้จัดการมูลนิธิรามาธิบดีฯ กล่าวว่า “มูลนิธิรามาธิบดีฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญของกลุ่ม ซูเปอร์แอป (Super App) ด้วยปัจจุบันวิถีชีวิตของคนก็กำลังปรับตัวสู่สังคมดิจิตอล โลกออนไลน์มากขึ้น ยิ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่พวกเราทุกคนสามารถช่วยหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อได้ด้วยมาตรการ “การรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)” และ “การกักตัวในที่พักอาศัย (Self-Quarantine)” จึงทำให้เกิดเป็นแนวคิดในการผสานความร่วมมือกับแพลตฟอร์มชั้นนำของประเทศไทย เพื่อเป็นเพิ่มช่องทางในการระดมทุนและเพิ่มช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลสำคัญในช่วงเวลาฉุกเฉินที่สามารถเข้าถึงประชาชนส่วนใหญ่ได้ง่ายและรวดเร็ว”

นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “ที่ผ่านมา แกร็บ ได้ริเริ่มและดำเนินกิจกรรมต่างๆ ภายใต้โครงการ ‘แกร็บแคร์’ (GrabCares) เพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของคนกลุ่มต่างๆ ในสังคม ซึ่งรวมถึงหน่วยงานด้านสาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์ โดยเราได้ร่วมสนับสนุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ ด้วยการส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการบริจาคเพื่อสมทบทุนใน ‘โครงการป้องกันและช่วยเหลือสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19’ ผ่าน GrabPay Wallet และการใช้คะแนน GrabRewards นอกจากนี้ เรายังได้มอบส่วนลดค่าส่งเมื่อสั่งอาหารผ่าน GrabFood ให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกรมควบคุมโรค ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลรัฐ 7 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมจนถึง 30 มิถุนายน 2563 รวมมูลค่าสูงสุดกว่า 3 ล้านบาท รวมถึงการสนับสนุนโรงพยาบาลของรัฐ ในการจัดส่งยาผ่าน GrabExpress ให้กับผู้ป่วยถึงบ้าน ทั้งนี้ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อกำลังใจและแบ่งเบาภาระของคุณหมอ พยาบาล รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่ได้อุทิศแรงกายแรงใจในการป้องกันโรคและรักษาผู้ป่วยอย่าง สุดความสามารถในภาวะวิกฤติ19 ที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้”

นางสาวรวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด กล่าวว่า “สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนในสังคมต้องร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง เจดีเซ็นทรัล ได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มาเปิดร้านจำหน่ายสินค้าบนแพลทฟอร์มพร้อมเว้นค่าธรรมเนียม และสิทธิพิเศษ อีกมากมายเพื่อเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ และเพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม นอกจากนี้ยังได้มีการเชิญชวนลูกค้าร่วมบริจาคเพื่อสมทบทุนซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ ผ่านแคมเปญ “โครงการ#เจดีเซ็นทรัลจอยจากใจ” เริ่มต้นเดือนพฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป เจดีเซ็นทรัล ก็เตรียมที่จะให้การสนับสนุนด้านการบริจาคและระดมทุนเพื่อช่วยเหลือนักสู้เสื้อขาวผ่านมูลนิธิรามาธิบดีฯ และโรงพยาบาลในจังหวัดต่างๆ ด้วยการเปลี่ยนเจดีพ้อยท์ เป็นเงินบริจาค และการบริจาคผ่านคูปองที่จำหน่ายบนแพลทฟอร์มเจดีเซ็นทรัล นอกจากนี้ เรายังพร้อมเป็นกระบอกเสียงในการประชาสัมพันธ์ เพื่อสนับสนุนโครงการระดมทุนหรือการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในยามฉุกเฉินต่อไปด้วย”

นางสาวภารดี สินธวณรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ลาซาด้าพร้อมร่วมสนับสนุนและร่วมส่งกำลังใจให้กับนักสู้ชุดขาว บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ปฏิบัติงานแถวหน้าทุกทาน ผ่านการเปิดช่องทางการบริจาคออนไลน์เพื่อสนับสนุนองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในรูปแบบของ Digital Giving Platform เพื่อช่วยเหลือองค์กรสาธารณกุศลต่างๆและผู้ด้อยโอกาส โดยผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคได้ผ่าน LazadaForGood ให้ทุกใจได้ทำดี บนแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ เรายังตระหนักถึงผู้ยากไร้ในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้ โดยมีการผนึกกำลังกับแบรนด์ ที่เข้าร่วมโครงการ LazadaForGood เพื่อนำยอดขาย ส่วนหนึ่งสมทบทุนบริจาคเงินหรือร่วมบริจาคสินค้าอุปโภคบริโภค และเรายังมีโครงการ#LazHappyHeart ที่นำการติด ทุกแฮชเท็กมานับเป็นหนึ่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่เราจะนำไปบริจาคให้ผู้ยากไร้อีกด้วย”

นางสาวสุชญา ปาลีวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ช้อปปี้มีพันธกิจหลักที่เรามุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย รวมถึงภาคส่วนสังคมในทุกๆสถานการณ์ เราจึงดำเนินโครงการต่างๆเพื่อสนับสนุนและให้กำลังใจ     สู้สถานการณ์ครั้งนี้ไปด้วยกัน โดยผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคออนไลน์กับมูลนิธิรามาธิบดีฯ ใน “โครงการป้องกันและช่วยเหลือสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19” ของมูลนิธิฯ ได้โดยตรง ผ่านการซื้อคูปองบริจาคที่ร้านค้า Official Store      ของมูลนิธิรามาธิบดีฯ บนแพลตฟอร์มช้อปปี้ นอกจากนี้ช้อปปี้ยังได้จัดแคมเปญ ShopeeForHeroes มอบคูปองแก่บุคลากรทางการแพทย์ เพื่อใช้ในการจับจ่ายในแพลตฟอร์มของช้อปปี้ แทนคำขอบคุณในความเสียสละและการอุทิศตนในการปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันเพื่อต่อสู้กับวิกฤตการณ์ในครั้งนี้”

“การผสานความร่วมมือระหว่าง 4 ซูเปอร์แอปชั้นนำของประเทศ ในโครงการ “มูลนิธิรามาธิบดีฯ รวมพลัง Super App เพื่อนักสู้ชุดขาว” นี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงบน “วัฒนธรรมแห่งการให้”ในสังคมไทย นี่คือความร่วมมือร่วมใจครั้งยิ่งใหญ่ของทุกภาคส่วน โดยประชาชนชาวไทยที่มีจิตศรัทธาทุกคนก็สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยในการฝ่าวิกฤตไวรัสร้าย รวมถึงร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคมได้ ด้วยการคลิก 

ร่วมบริจาคผ่านทั้ง 4 แอปพลิเคชันวันนี้ มูลนิธิรามาธิบดีฯ เชื่อว่า ทุกการให้ของทุกคนมีความสำคัญและสามารถแปรเปลี่ยนเป็นพลังการให้ที่ยิ่งใหญ่ได้ ดังปณิธานที่ว่า คำว่าให้…ไม่สิ้นสุด” นางสาวพรรณสิรีกล่าวปิดท้าย

สำหรับผู้ที่สนใจร่วมบริจาคสมทบทุนในโครงการ“มูลนิธิรามาธิบดีฯ รวมพลัง Super App เพื่อนักสู้ชุดขาว” สามารถบริจาคได้ผ่านแอปพลิเคชันของ แกร็บ ประเทศไทย (Grab Thailand), เจดี เซ็นทรัล (JD Central), ลาซาด้า (Lazada), และ ช้อปปี้ (Shopee) และช่องทางการบริจาคของมูลนิธิรามาธิบดีฯ ผ่าน E-Banking ตามรายละเอียดดังนี้ 

ชื่อบัญชี มูลนิธิรามาธิบดี 
ธนาคารกสิกรไทย บัญชีกระแสรายวัน เลขที่ 879-2-00448-3

ธนาคารไทยพาณิชย์ บัญชีกระแสรายวัน เลขที่ 026-3-05216-3

ธนาคารกรุงเทพ บัญชีกระแสรายวัน เลขที่ 090-3-50015-5
บริจาคออนไลน์ www.ramafoundation.or.th สอบถามโทร 02-201-1111

#คำว่าให้ไม่สิ้นสุด
#รามาฯร่วมใจสู้ภัยโควิด
####

Loading Facebook Comments ...

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *