สนามนี้มีมนต์ขลัง Half Marathon ที่ LagunaPhuket Marathon 2019

ครั้งนี้เป็นฮาฟที่ 2 ในชีวิตของนุท เอาจริงๆ ไม่เคยคิดว่าจะวิ่งฮาฟอีก เพราะตั้งแต่ครั้งแรกหลังจากวิ่งฮาฟจบ อยู่ดีๆมันก็หมดใจไปดื้อๆร่างกายก็ท้อหมดแรงไป ไม่สามารถที่จะวิ่งระยะยาวๆได้เลย กว่าจะวิ่งได้ถึง 10 กิโลมันทรมานมากๆ มันเหมือนกับตอนที่เราอกหักเลยล่ะ

แต่แล้วเมื่อเรามีความรักครั้งใหม่ มันก็ทำให้ใจชุ่มชื่นขึ้นมา แถมกำลังใจมาเต็มอีกเมื่อรู้ว่าเค้าคนนั้นก็เป็นนักวิ่งเช่นกัน แถมลง full marathon ที่งาน Laguna phuket marathon2019 ด้วย ยิ่งมีแรงใจที่จะฝึกวิ่ง แต่รักครั้งนี้มันก็ลุ่มๆดอนๆมาตลอด แต่สิ่งนึงที่ไม่เหมือนความรักคือเรากลับมุ่งมั่นที่จะซ้อมๆ เพราะแอบคิดเล่นๆว่าจะลงฮาฟงานนี้ เวลาต้องดีกว่าครั้งแรกที่จอมบึงมาราธอน เพื่อที่จะมารอเค้าคนนั้นที่เส้นชัยให้ทันเวลา

ระหว่างนี้ก็ซ้อมไปเรื่อยๆอย่างต่ำๆ 10 กิโลเกือบทุกวัน ทั้งในฟิตเนส และ outdoor วิ่งช้าบ้างเร็วบ้าง ส่งผลการวิ่งให้โค้ชดูทุกวัน การได้ยินคำชมก็เป็นกำลังใจให้เรามีแรงที่จะซ้อมต่อไป จริงๆก็หวังไว้ในใจเสมอว่าสักวันคงได้วิ่งเคียงคู่กัน เหมือนดั่งก้อยกับพี่ตูน มันคงมีความสุขมากๆเลยถ้าเราได้วิ่งเคียงข้างกับคนรัก

แต่แล้วเมื่อถึงเวลานั้นก่อนหน้า 1 อาทิตย์ รักครั้งนี้ก็พังทลายลงอีก แต่เราเองกลับมีใจที่มุ่งมั่นที่จะไปฮาฟครั้งนี้โดยที่ระหว่างนั้น ในใจก็มีความกลัวต่างๆนานาฝุดขึ้นมาเต็มไปหมด แล้วก็คิดกับตัวเองเล่นๆว่า ก็ไหนๆซ้อมมาแล้ว มันต้องได้สิ ต้องผ่านให้ได้ จะวิ่งร้องไห้มันกลางสายฝนนี่แหละ ระหว่างช่วงเวลานี้ต้องขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่ส่งกำลังใจมาให้กันมากมายว่ายังงัยก็จบแน่นอน เพราะทุกคนเห็นเราซ้อมหนักกว่าเดิมเยอะมาก

เมื่อใจมันมุ่งมั่นไปขนาดนี้ ก็เตรียมอุปกรณ์เต็มที่ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าใหม่ หมวกเอาไว้กันแดด แว่นตากันแดด กางเกง เสื้อ ถุงเท้า กระเป๋าคาดเอว หูฟัง นาฬิกา ผ้าบัฟ คือแค่อุปกรณ์นี่บอกได้เลยว่า มาครบมาก

เมื่อถึงวันเดินทางคะ ฝนตกตั้งแต่วันเสาร์ยาวๆ ฟ้าเชื่อมเชียว สนุกแน่คราวนี้ ใจก็กังวลตลอด เอางัยดีนะ แถมสนามนี้หลายๆคนบอกว่าโหดใช้ได้ อันเนื่องจากภูมิประเทศของภูเก็ตที่ถนนตัดลัดเลาะเขา ก็จะมีเนิน มีทางลาด ผ่านสวนยาง เลียบทะเล แต่ใจนึงก็คิดสภาพอากาศแบบนี้ไม่มีแดด ไม่ร้อนแน่นอน แต่ใจนึงก็คิด ถ้าวันจริงฝนตกเอางัยดี จะเทไหม กลัวรองเท้าเลอะ วิ่งกลางฝนจะเป็นงัย จะไม่สบายไหมนะ คือความคิดผุดขึ้นมาเต็มหัวไปหมด

เช้าของวันที่ 9 มิย 62 ตื่นมาปุ๊บ เอางัยดี ฝนยังตกอยู่เลย แถมลงหนักด้วยนะ ไม่ได้มาเป็นละออง ปรอยๆเลย ตัดสินใจ ไหนๆก็มาถึงนี่แล้ว มุ่งมั่นตั้งใจซ้อมมาตั้งหลายเดือน ต้องสู้ต่อสิ แล้วเราก็ชนะใจตัวเอง แต่งชุดพร้อม เดินทางมาถึงจุดปล่อยตัว มีคนมาร่วมวิ่งกันเยอะแยะเลย ไม่เหงาแน่ ระหว่างที่เดินทางเห็นบางคนกางร่มมา ใส่เสื้อกันฝนก็มี ในใจก็คิดตลอดจะใส่เสื้อกันฝนดีไหมนะ มันจะหนาวไหม แต่ถ้าวิ่งๆไปแล้วร้อนล่ะ จะเอาเสื้อไปไว้ไหน

เมื่อถึงเวลาเข้าจุดปล่อยตัว ระหว่างที่ยืนรอเวลา อยู่ดีๆฝนก็กระหน่ำลงมาเลยจร้า เละสิคะคราวนี้ ยังไม่ทันออกสตาร์ทเลย เอาวุ้ย สู้สิ ไม่ต้องกลัวแล้วว่ารองเท้าจะเลอะ เพราะมันเปียกตั้งแต่ยังไม่เริ่ม แบบนี้ก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วสิ คิดอย่างเดียววิ่งให้สนุก ครั้งนี้เมื่อถึงเส้นชัยเราจะไปบอกเฮียตูนว่า หนูจบฮาฟแล้วนะ

นุทวิ่งไปเรื่อยๆ ไม่รีบไม่เร่ง ไม่ได้ดูเพซเลย ด้วยบรรยากาศฝนพรำตลอดทำให้อากาศเย็นสบาย วิ่งชิลๆไต่เนินเล็ก เนินน้อยไปเรื่อยๆ คิดว่าเราไปเรื่อยๆ ไม่รีบไม่เร่ง เก็บภาพบรรยากาศรอบข้างให้ได้เยอะที่สุด มองดูผู้คนที่มาร่วมวิ่งกับเรา เอะคนนี้ใส่รองเท้าอะไรนะ แต่งตัวยังงัย ฟังเพลงชิลๆไปเรื่อยๆ ผ้าบัฟที่เตรียมมาเพื่อเช็ดหงื่อก็เปียกน้ำฝนจนต้อง ถอดมาบิดน้ำออก ระหว่างวิ่งจริงๆอยากจะถอดเสื้อออกมาบิดน้ำมากๆ แต่เกรงใจคนอื่นๆที่จะได้เห็นพุงขาวๆ สงสาร

เชื่อไหมว่าการวิ่งครั้งนี้กับการคิดครั้งแรกว่าคงได้มาร้องไห้กลางสายฝน กลับกัน นุทได้รอยยิ้ม ความสุขที่มากมายเหลือเชื่อมากมาย กับบรรยากาศรอบข้างและผู้คนที่มาร่วมวิ่ง ทักทายกันตลอด

ระหว่างที่วิ่งในใจคิดอยู่ตลอด อยากจะรีวิวหูฟัง มือถือ นาฬิกาที่พกมาด้วยเหลือเกิน เพราะงานนี้อย่าได้ถามว่ารุ่นนี้มันกันเหงื่อไหม ฝนขนาดนี้คือมันเกินเหงื่อละ ฝนถล่มหนักแบบนี้ ทุกสิ่งที่พกมารอดทุกตัว มันแจ่มจริงๆ ขอบอก

วิ่งไปเรื่อยๆจนเมื่อถึงกิโลที่ 15 ตามที่ซ้อมหลังจากนี้ขาเริ่มล้าแหะ อาจเพราะเราไม่ได้ซ้อมยาวๆถึง 20 โลสักที แต่ก็พยายามวิ่งเรื่อยๆไปตลอด แวะดื่มน้ำทุกจุด กินแตงโม กินไอติม กินทุกอย่างที่เค้ามีให้ ช่วงที่เจอเนินสูงยาวๆ ดีนะที่ช่วงนั้นเดินกินไอติมพอดี ก็ได้เวลาอู้สบายๆตามข้ออ้างที่เตรียมไว้ให้ตัวเอง หลังจากนั้นเราก็วิ่งไปเรื่อยๆจนเข้าสู่เขตใกล้เส้นชัย ก็มีเสียงเชียร์จากคนรอบข้าง ทำให้มีแรงใจกัดฟันสปีดเท่าที่แรงมี วิ่งเข้าเส้นจนได้

เมื่อดูเวลา เห้ย ดีกว่าครั้งแรกอีกแหะ ทั้งๆที่สนามนี้ยากกว่าที่จอมบึงอีก แต่แอบเสียดายที่เกิน 3 ชั่วโมงมา 7 นาที น่าจะไปเสียเวลาตอนกินไอติมนี่แหละ อิอิ แต่มันเป็นฮาฟที่เปี่ยมไปด้วยความสุขจริงๆ มารู้ตัวว่าเรานี่รักการวิ่งกลางสายฝนไปแล้ว ฝนไม่ได้พัดพาความเหงามาเท่านั้น แต่มันพัดความสุข ความสนุกเหมือนครั้งวัยเด็กที่ออกไปวิ่งเล่นกลางสายฝน

Laguna Phuket Marathon 2019 เป็นสนามนึงที่มีเสน่ห์มากๆซึ่งถ้าใครไม่เคยมาอยากจะแนะนำเลยคะ ว่าสักครั้งที่คุณต้องมาลองกับงานวิ่งระดับโลก สนามนี้มีมนต์ขลัง เชื่อได้เลยว่าปีหน้านุทจะกลับมาฮาฟที่นี่อีกแน่นอน แล้วพบกันคะ

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ

  • Infinity Communications ที่เชิญมาและดูแลเป็นอย่างดีตลอดทริปคะ
  • Plantronics สำหรับหูฟังรุ่น PLT BBFIT 3100 Series
  • Garmin รุ่น Instinct

Loading Facebook Comments ...

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *