บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำตลาดทีวีพรีเมียม พร้อมฉลอง 10 ปีแห่งความเป็นผู้นำนวัตกรรม OLED ตัวจริง เปิดตัวไลน์อัพทีวีใหม่ล่าสุดประจำปี 2566 นำโดยทีวีรุ่นไฮไลท์ ได้แก่ LG OLED evo 4K ซีรีส์ G2 ขนาด 97 นิ้ว ซึ่งเป็นทีวี OLED 4K ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
![](http://www.nutchillday.com/wp-content/uploads/2023/07/image001.jpg)
รองรับประสบการณ์ความบันเทิงด้านภาพและเสียงขั้นสูงสุด บนหน้าจอทีวีขนาดยักษ์ที่ให้ภาพสวยและสีสันสว่างสมจริงยิ่งกว่า เสริมทัพด้วยจอไลฟ์สไตล์รุ่นใหม่อีก 2 รุ่น ได้แก่ LG OLED Posé ที่มอบภาพคมชัดผ่านหน้าจอ OLED evo ในดีไซน์การออกแบบที่สวยและลงตัวสำหรับทุกสไตล์การตกแต่งห้อง และ LG StanbyME จอสัมผัสที่เคลื่อนที่ได้อิสระ นอกจากนี้แอลจียังเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยด้วยไลน์อัพทีวีอื่นๆ ทั้ง OLED, QNED, NanoCellและ UHD ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่
![](http://www.nutchillday.com/wp-content/uploads/2023/07/mr.-sunghun-jung.jpg)
นายซองฮัน จอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า“ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา แอลจีได้นำเสนอนวัตกรรมทีวี OLED ระดับโลกสู่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นทีวี LG OLED จอโค้งขนาด 55 นิ้วรุ่นแรกของโลก และวอลเปเปอร์ทีวีไร้ขอบ LG OLED หรือทีวี OLED 8K รุ่นแรกของโลก ไปจนถึงเป็นผู้ผลิตทีวี OLED ที่มีขนาดหน้าจอเล็กที่สุดไปจนถึงใหญ่ที่สุดการนำเสนอผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่นออกสู่ตลาด เกิดจากความตั้งใจที่ส่งมอบประสบการณ์ความบันเทิงเหนือระดับและไม่ซ้ำใครให้แก่ผู้บริโภค โดยมีหัวใจสำคัญคือการพัฒนาด้านนวัตกรรมที่ไม่เคยหยุดนิ่งสอดคล้องกับแนวคิด “Innovation for a Better Life” แอลจีจะเดินหน้านำเสนอนวัตกรรมทีวีที่ก้าวล้ำ เพื่อก้าวต่อไปอย่างแข็งแกร่งในฐานะผู้นำด้าน OLED ตัวจริง”
![](http://www.nutchillday.com/wp-content/uploads/2023/07/mr.-amnaj-singhachan.jpg)
นายอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แอลจีเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดทีวีพรีเมียมของประเทศไทยมาตลอด 10 ปี และมีส่วนแบ่งการตลาดในเซกเมนต์นี้สูงถึง 75% ในปีที่ผ่าน แต่เราไม่หยุดที่จะพัฒนาต่อไปเพื่อมอบประสบการณ์ความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าให้แก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้บริโภคยุคใหม่ที่ไม่เพียงมองหาทีวีที่มาพร้อมเทคโนโลยีด้านภาพเท่านั้น แต่ยังต้องตอบโจทย์ในด้านไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ เช่น พร้อมรองรับการรับชมสตรีมมิ่งคอนเทนต์ที่หลากหลายและสามารถใช้งานร่วมกับโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้อย่างสะดวก รวมถึงในด้านดีไซน์ที่สวยงามและลงตัวกับการตกแต่งภายในบ้าน ในปีนี้ แอลจีเราจึงมุ่งมั่นนำเสนอไลน์อัพทีวีหลากหลายรุ่น ที่นำโดยนวัตกรรมทีวี OLED 4K จอยักษ์ระดับไฮเอนด์สู่ตลาดทีวีระดับพรีเมียม พร้อมกับประเดิมตลาดทีวีไลฟ์สไตล์เป็นครั้งแรก ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคชาวไทย และคาดว่าจะสร้างการเติบโตด้านยอดขายในกลุ่มทีวี OLED ขึ้น 60% และสร้างฐานยอดขายในกลุ่มไลฟ์สไตล์ทีวี รวมถึงจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของแอลจีในตลาดทีวีโดยรวมถึง 21% ภายในปี 2566”
ความพิเศษของการเปิดตัวไลน์อัพทีวีใหม่ล่าสุดประจำปี 2566 ของแอลจี คือการปฏิวัติในโลกของทีวีที่ก้าวล้ำไปอีกขั้น ผ่าน 5 แนวคิดหลัก ได้แก่
การอัพเกรดชิปประมวลผลที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI
![](http://www.nutchillday.com/wp-content/uploads/2023/07/ai-powered-processor-upgrade.jpg)
หัวใจสำคัญที่สุดของทีวีแอลจีคือขุมพลังชิปประมวลผลที่ออกแบบมาเพื่อจอแสดงผล OLED โดยเฉพาะ ที่ช่วยให้ทีวีทำงานได้มีประสิทธิภาพและเสถียรมากขึ้น โดยในปีนี้มีทีวี LG OLED ทั้งหมด 3 ซีรีส์ที่ได้รับการอัพเกรดชิปประมวลผล α9 (อัลฟ่า) AI Processor Gen6 ได้แก่ LG OLED 8K evo ซีรีส์ Z3ที่ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล α 9 AI Processor 8KGen6 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่ก้าวล้ำที่สุดของทีวี OLED ตามมาด้วย LG OLED evo 4K ซีรีส์ G3 และC3 ที่ขับเคลื่อนด้วยชิพประมวลผล α9 AI Processor 4K Gen6 ซึ่งชิปประมวลผล AI จะมอบภาพที่มีมิติและคมชัดยิ่งขึ้นทั้งในโทนมืดและสว่าง รวมถึงยกระดับการจำลองเสียงรอบทิศทางเป็น 9.1.2 แชนแนล และมอบความสมดุลของเสียงได้มากยิ่งขึ้น
มอบความสว่างและคมชัดมากขึ้น 70% ด้วยเทคโนโลยี Brightness Booster Max
![](http://www.nutchillday.com/wp-content/uploads/2023/07/70_-brighter-and-sharper-with-brightness-booster-max-technology.jpg)
พัฒนาการอีกขั้นของนวัตกรรมทีวีแอลจีในปีนี้ คือการอัพเกรดความสว่างบนจอภาพเพิ่มขึ้นถึง 70% ในทีวี LG OLED evo 4K ซีรีส์ G3 ผู้ชมจึงสัมผัสได้ถึงสีสันที่สวยสมจริงและภาพที่คมชัดยิ่งขึ้น ทีวีทุกรุ่นยังมาพร้อมเทคโนโลยี Eye Comfort Display ที่ช่วยลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตา และแสงสะท้อนที่ทำให้ไม่สบายตา รวมทั้งลดการสั่นไหวของจอ ทำให้รับชมคอนเทนต์ต่อเนื่องได้อย่างสบายตาและไม่เมื่อยล้าสายตา
การันตีคุณภาพระดับชั้นนำที่วางใจได้
![](http://www.nutchillday.com/wp-content/uploads/2023/07/image006.jpg)
แอลจีได้รับการทดสอบจาก RTINGS.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ด้านการทดสอบคุณภาพของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคที่น่าเชื่อถือ โดยจากการทดสอบจอทีวี LG OLED ของRTINGS.com พบว่าผู้บริโภคสามารถลดความกังวลในเรื่องอาการ Burn-in ของจอภาพ เนื่องจากจอ OLED ของแอลจีใช้การทำงานของเม็ดพิกเซล 4 สี (RGBW) ทำให้ไม่ต้องใช้เม็ดพิกเซลหลายสีรวมกันเป็นสีขาว จึงเกิดอาการ Burn-in ได้ยากกว่าทีวีที่ใช้งานเม็ดพิกเซลเพียงแค่ 3 สี (RGB)เพราะเม็ดพิกเซลต้องรวมตัวกันแสดงสีขาว จึงเกิดการความร้อนสะสมได้มากกว่า และทำให้เกิดการ Burn-in ได้ง่ายกว่า ซึ่งคุณภาพที่เชื่อถือได้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้แอลจีครองสถานะผู้นำนวัตกรรมทีวี OLED มาตลอด 10 ปี
ไลฟ์สไตล์ทีวีดีไซน์สวย ลงตัวกับทุกการใช้งาน
![](http://www.nutchillday.com/wp-content/uploads/2023/07/image007.jpg)
ในปี 2566 แอลจียังก้าวเข้าสู่ตลาดไลฟ์สไตล์ทีวีอย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากเล็งเห็นความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการออกแบบและความลงตัวกับการตกแต่งบ้าน จึงได้เปิดตัวทีวี LG OLED Posé ขนาด 55 นิ้ว ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่สวยงามลงตัวทุกมุมมอง และมอบคุณภาพของภาพที่สวยคมชัดด้วยหน้าจอ OLED evoนอกจากนี้ยังได้เปิดตัว LG StanbyME จอสัมผัสเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระด้วยล้อลากและแบตเตอรี่ในตัว และจอภาพที่ออกแบบมาให้ปรับหมุนได้ จึงตอบโจทย์เทรนด์การรับชมสตรีมมิ่งคอนเทนต์จากแอปพลิเคชันต่างๆ เหมาะสำหรับการรับชมคอนเทนต์ความบันเทิงได้จากทุกพื้นที่ภายในบ้าน
เน้นประสบการณ์ของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ
![](http://www.nutchillday.com/wp-content/uploads/2023/07/image008-1.jpg)
ทีวีแอลจีรุ่นปี 2566 ได้รับการอัปเดตระบบปฏิบัติการ webOS 23 ทำให้อินเทอร์เฟซการใช้งานของทีวีมีความเรียบง่ายและเป็นสัดส่วนมากขึ้น การจัดหน้าจอแบบ Quick Cards ช่วยให้ผู้ชมค้นหาคอนเทนต์ที่ต้องการได้ง่ายและรวดเร็ว สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันที่ต้องการได้ง่ายกว่าเดิม ฟีเจอร์ Quick Settings ยังช่วยให้ตั้งค่าฟังก์ชันที่ใช้งานบ่อยได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปเลือกจากเมนูเต็มรูปแบบทุกครั้ง นอกจากนี้เมนู Home Hub ยังรองรับการเชื่อมต่อและควบคุมอุปกรณ์ IoT ภายในบ้านอย่างสะดวกผ่านแอปพลิเคชัน LG ThinQ และมีฟีเจอร์ Game Optimizer ที่สามารถตั้งค่าการเล่นได้โดยไม่ต้องเสียเวลาหยุดหรือออกจากเกม จึงเพลิดเพลินกับเกมสุดสนุกได้อย่างไม่ขาดตอน
![](http://www.nutchillday.com/wp-content/uploads/2023/07/peranee-kongthai.jpg)
สำหรับไลน์อัพทีวีไลน์อัพทีวีใหม่จากแอลจีในปี 2566 พร้อมวางจำหน่ายแล้วในราคาดังนี้
• LG OLED evo 4K ซีรีส์ G2 ขนาด 97 นิ้ว ราคา 999,990 บาท
• LG StanbyME ราคา 44,990 บาท
• LG OLED Posé 55” ราคา 67,990 บาท
• LG OLED 4 ซีรีส์ 11 รุ่น ได้แก่ Z3, G3, C3, และ B3 ในขนาด 48-88 นิ้ว พร้อมจำหน่ายแล้วในราคา 49,990 – 999,990 บาท
• LG QNED 3 ซีรีส์ 10 รุ่น ได้แก่ LG QNED MiniLED ซีรีส์ QNED86 4K ซีรีส์ QNED80 4K และซีรีส์ QNED75 4K ในขนาด 55-86 นิ้ว ราคา 24,990 – 149,990 บาท
• LG NanoCell 2 ซีรีส์ 8 รุ่น และ LG UHD ทั้งหมด4 ซีรีส์ 15 รุ่น ราคา 12,990 – 84,990 บาท
ผู้สนใจสามารถสอบถามได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและสาขาที่ร่วมรายการ รายละเอียดของทีวีแอลจีเข้าชมได้ที่ https://www.lg.com/th/oled หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลแอลจี 0-2057-5757 และติดตามกิจกรรมจากแอลจีได้ทาง:
![](http://www.nutchillday.com/wp-content/uploads/2023/07/image018.jpg)