ใครเป็นสาวก Fitbit คงเฝ้ารอมานานกับ Fitbit Ionnic วันนี้มาถึงเมืองไทยแล้วจ้า เปิดตัวพร้อมวางจำหน่าย ส่วนเพื่อนๆที่ยังไม่ทราบว่าคือตัวไหน มีคุณสมบัติอย่างไรตามมาดูกันคะ
“ไอออนิค” พัฒนาขึ้นมาพร้อมฟังก์ชั่นการออกกำลังแบบจัดเต็มในเครื่อง เซ็นเซอร์ตรวจวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดสัมพัทธ์ (relative SpO2 Sensor) ที่สามารถติดตามข้อมูลสุขภาพเชิงลึกได้ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (sleep apnea) ในอนาคตได้ ตัวนี้มาพร้อมกับจีพีเอสในตัว โปรแกรมสอนการออกกำลังกายในตัว การตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจที่ดีมากขึ้นด้วย และยังกันน้ำลึกได้ถึง 50 เมตร
นอกจากนี้ ยังอัดแน่นด้วยสมาร์ทฟีเจอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัส (contactless payment) คลังเพลงในตัวเครื่อง ระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะ และแอปพลิเคชั่น รวมถึงหน้าจอนาฬิกา (clock face) ที่มีให้เลือกเปลี่ยนได้มากมายในคลังแอปฯ ฟิตบิท (Fitbit App Gallery) นอกจากนี้ ไอออนิคยังได้รวบรวมฟีเจอร์สำคัญ ๆ ของฟิตบิทเอาไว้ทั้งหมด เช่น แบตเตอรี่ที่ใช้ได้นานสูงสุด 5 วัน การตรวจจับกิจกรรมและคุณภาพการนอนของผู้ใช้โดยอัตโนมัติ รวมทั้งรองรับการใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์มอื่น
ครบทุกอย่างที่ต้องการ ลงตัวในเครื่องเดียว
ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬามือสมัครเล่นหรือมืออาชีพ อุปกรณ์ที่ล้ำหน้าที่สุดของฟิตบิทเครื่องนี้ ก็จะให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับแต่ละคนและนำไปปฏิบัติได้จริง ช่วยผลักดันให้แต่ละคนบรรลุเป้าหมายของตัวเองได้ และก็ไม่พลาดการเชื่อมโยงกับแอปฯ และระบบเตือนต่าง ๆ ไม่ว่าจะใช้สมาร์ทโฟนรุ่นไหนอยู่ก็ตาม
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 5 วัน: แบตเตอรี่ของฟิตบิท ไอออนิคชาร์จสามารถใช้งานได้ติดต่อกันหลายวันจากการชาร์จหนึ่งครั้ง (ใช้งาน GPS หรือเล่นเพลงได้ 10 ชั่วโมง) ดังนั้น ฟิตบิท ไอออนิค จึงสามารถรองรับการใช้งานสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตลอดทั้งวัน แถมยังคอยติดตามการนอนหลับได้ตลอดทั้งคืน
- Fitbit Coach เทรนเนอร์ส่วนตัวไปได้ทุกที่ทุกเวลา: โปรแกรมการออกกำลังกายให้ทำตามได้แบบเป็นขั้นตอนที่มีมาให้ในเครื่อง เช่น โปรแกรมบริหารร่างกาย 7 นาที โปรแกรมบริหารหน้าท้องและกล้ามเนื้ออก10 นาที รวมทั้งโปรแกรมการออกกำลังกายที่ปรับให้เหมาะสมกับข้อมูลฟิตเนสของผู้ใช้
- เป็นอุปกรณ์คู่ใจนักวิ่ง: ฟิตบิท ไอออนิคมาพร้อมกับ Run Detect ฟังก์ชั่นใหม่ที่พร้อมจะติดตามการวิ่งของคุณคู่กับจีพีเอสโดยอัตโนมัติ เพียงแค่ก้าวเท้าออกจากประตู แล้วเริ่มวิ่ง แทรคเกอร์ก็จะแสดงความเร็วและระยะทางที่วิ่งแบบเรียลไทม์ พร้อมฟังก์ชั่น auto-pause ที่จะหยุดชั่วคราวเมื่อหยุดพักดื่มน้ำหรือพักหายใจ และทำงานต่อเมื่อเริ่มวิ่ง
- โหมดว่ายน้ำใหม่: ฟิตบิท ไอออนิค สามารถกันน้ำลึกได้ 50 เมตร พร้อมระบบการนับรอบว่ายน้ำที่ดีที่สุด คุณจึงสามารถใส่ไอออนิคว่ายน้ำ และดูจำนวนรอบแบบเรียลไทม์ รวมทั้งระยะเวลาในการออกกำลัง และปริมาณแคลอรี่ที่เผาผลาญไปในการว่ายน้ำ
- ระบบจีพีเอสที่ล้ำหน้าที่สุด: ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ที่มาพร้อมเสาอากาศในตัว เพื่อการเชื่อมต่อจีพีเอสและดาวเทียม GLONASS เพื่อให้ได้สัญญาณที่ดียิ่งขึ้น ล้ำสมัยที่สุด ผู้ใช้จึงไม่ต้องพกโทรศัพท์ติดตัวไว้ตลอดการออกกำลังกาย แต่ยังสามารถติดตามความเร็วในการวิ่งและระยะทางการออกกำลังกายได้บนข้อมือ รวมทั้งบันทึกการไต่ระดับความชัน เวลาการวิ่งในแต่ละช่วง แผนที่เส้นทางที่คุณเดิน วิ่งหรือขี่จักรยาน
- เทคโนโลยีการวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ดียิ่งขึ้น: ฟิตบิท ไอออนิคมาพร้อมกับ PurePulse® ระบบวัดอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างออกกำลังกายที่แม่นยำยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขี่จักรยาน การวิ่ง การฝึก interval การวัดอัตราการเผาผลาญแคลอรี่ที่ดีขึ้น แสดงโซนของอัตราการเต้นหัวใจแบบเรียลไทม์เพื่อให้ผู้ใช้ปรับเปลี่ยนการออกกำลัง และติดตามอัตราการเต้นของหัวใจขณะพักได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- เซ็นเซอร์ใหม่ที่ดียิ่งขึ้น: เซ็นเซอร์ตรวจวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดสัมพัทธ์ (relative SpO2 Sensor) ที่สามารถประเมินระดับออกซิเจนในเลือดได้ พร้อมเปิดศักยภาพการติดตามข้อมูลบ่งชี้เกี่ยวกับสุขภาพในอนาคตได้อีกมาก เช่น การตรวจสอบภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (sleep apnea)
- เติมแรงใจได้ด้วยเสียงเพลง: วางโทรศัพท์ไว้ที่บ้านได้เลย แล้วมาหาสิ่งช่วยกระตุ้นให้คุณลุกขึ้นมาออกกำลัง ด้วยฟังก์ชั่น music ที่สามารถจุและเล่นเพลงของคุณได้มากกว่า 300 เพลงในเครื่อง (ความจุ 2.5 GB)
- ชำระเงินด้วย Fitbit Pay: ในอนาคต คุณเอาโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์ทิ้งไว้ที่บ้านก็ได้ เพราะการชำระเงินผ่านอุปกรณ์สามารถทำได้ง่าย และใช้ได้ทุกที่ที่รับชำระเงินแบบไร้สัมผัส
- ระบบเตือนอัจฉริยะคู่ใจที่ต้องมี: ฟังก์ชั่นแจ้งเตือนบน ฟิตบิท ไอออนิคที่สามารถแจ้งเตือนสายเรียกเข้า รับข้อความ แจ้งเตือนวันนัดหมาย รวมทั้งการแจ้งเตือนจากแอปฯ ในมือถือ เช่น Facebook, Gmail, Instagram, Slack, Snapchat และอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ใหม่ ๆ เหล่านี้แล้ว ไอออนิคยังรวมทุกสิ่งที่คุณชอบในฟิตบิทไว้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการติดตามก้าวเดินอัตโนมัติ ติดตามแคลอรี่ จำนวนชั้นที่เดิน การนอนหลับ หรือระดับความฟิตของหัวใจแบบ VO2 Max การรักษาจังหวะการผ่อนคลาย และอีกมากมาย สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิตบิท ไอออนิคได้จาก https://www.fitbit.com/ionic
วางจำหน่ายแล้วผ่านตัวแทนจำหน่ายชั้นนำ อาทิ คอปเปอร์ไวร์ด พาวเวอร์บาย คิง พาวเวอร์ และ บีทูเอส ทุกสาขาทั่วประเทศในราคา 11,690 บาท โดยมีสามคู่สีที่ผสานกันอย่างมีดีไซน์ เพิ่มความสดใสให้กับวันธรรมดา ๆ ที่ลงตัวกับไลฟ์สไตล์คุณ ได้แก่ แทรคเกอร์สีซิลเวอร์เกรย์ที่มากับสายสีบลูเกรย์ แทรคเกอร์สีสโมกเกรย์คู่กับสายสีชาร์โคล และแทรคเกอร์สีเบิร์นออเรนจ์คู่กับสายสีสเลตบลู