จากที่นุทเคยเล่าไปถึงสภาพผมที่เสียอย่างหนักจากการดัด ทำสี จนมาถึงการยืดผม และทำสีอีกรอบจึงทำให้ปลายผมแห้งแตก ผมฟูไร้น้ำหนัก จนเมื่อนุทได้มาลองใช้ satinique glossy repair ทั้งแชมพูและคอนดิชันเนอร์ บอกได้เลยว่าชอบจริงๆ หลังจากใช้ผมก็เงาเรียบลื่นขึ้น ผมนิ่มไม่แห้งพันกัน
แต่เพียงแค่นั้นยังไม่พอสำหรับผมแห้งเสียนะคะ ถ้าคุณต้องการการบำรุงที่ล้ำลึกจริงๆต้องตัวนี้เลยคะ satinique revitalizing mask ตัวนี้เป็นมาร์สสำหรับการบำรุงผมที่เข้มข้นขึ้น
สำหรับการใช้ตัวนี้เราก็ใช้หลังจากการสระผมประจำวันของเราคือหลังจากการใช้แชมพูและคอนดิชันเนอร์แล้ว ล้างผมให้สะอาด จากนั้นชโลมมาส์คให้ทั่วทั้งศีรษะ โดยเราเริ่มจากปลายผม เพราะปลายผมนี้จะเป็นส่วนที่มีปัญหาเยอะสุดสำหรับผู้ที่ผมแห้งเสียจากการทำสี
แล้วเราต้องใช้ปริมาณเท่าไร อันนี้ขึ้นกับความยาวของเส้นผมของแต่ละคน และสภาพของเส้นผมว่าเสียมากเสียน้อย แรกๆอาจจะตักครีมมาประมาณขนาดเหรียญสิบ 2-3 เหรียญ แล้วนวดผมไปเรื่อยๆสักพักอาจจะเติมครีมลงเพิ่มแล้วนวดต่อไป ซึ่งจริงๆตามข้างกระปุกบอกให้ชโลมให้ทั่วแล้วทิ้งไว้ 3-5 นาที แต่สำหรับนุทใช้การนวดผมและหนังศีรษะไปเรื่อยๆ หรืออาจจะทิ้งไว้แบบหมักผมไปเลย หรือใช้การอบไอน้ำช่วย จะทำให้เนื้อครีมซึมเข้าสู่เส้นผมได้ดียิ่งขึ้น
หลังจากนั้นเราล้างผมให้สะอาด เน้นย้ำนะคะ ถูหนังศีรษะให้เกลี้ยง หลังจากนี้เพื่อนๆจะเป่าผมหรือปล่อยผมให้ให้เอง ระหว่างนี้ก็จะรู้ถึงผิวสัมผัสว่าผมนิ่มลื่นมากๆ นุทใช้การเป่าผมง่ายๆโดยไม่ได้ไดร์นะคะ เพียงแค่ครั้งเดียวที่ได้ลองพบว่าผมเงามัน เรียบลื่น โดยไม่ต้องใส่เซรั่มอะไรเพิ่มเติมเลยคะ
และถ้าเจอแสงแดด จะเห็นสีผมที่เงาชัดเจน ไม่หลงเหลือสภาพเลยใช่ไหมคะว่าผมนุทเสียหนักขนาดไหน ตัวนี้ใช้เองแล้วหลงรักเลยคะ ชื่นชอบมากๆ นี่ขนาดใช้ไปเพียงแค่ครั้งเดียวก็เห็นผลทันที ถ้าใช้เรื่อยๆผมเราจะดียิ่งๆขึ้นไปอีกแน่ๆ สำหรับการมาส์คผม ไม่ต้องทำทุกครั้งที่สระผมก็ได้นะคะ เพราะอาจจะต้องใช้เวลาเพิ่มจากเดิม อาจจะทำอาทิตย์ละครั้งหรือสองครั้ง ก็เพียงพอ สำหรับมาส์คตัวนี้นุทขอแนะนำเลยคะ สำหรับผู้ทำสี ดัด ยืด บำรุงรักษาผมกันหน่อย ก่อนจะสายแล้วต้องตัดผมทิ้งนะคะ
Google Plus
Facebook
Wordpress